มาทำความรู้จัก Warranty Card รุ่นใหม่ของ Rolex ปี 2020 กันค่ะ
ช่วงวิกฤตโควิท-19 ปีนี้ ถึงแม้ Rolex จะไม่ได้เปิดตัวนาฬิการุ่นใหม่ ๆหรือไปร่วมงานBasel World แถมหยุดการผลิตไปแป๊ปนึง แต่ Rolex ก็ได้ปล่อย Warranty Card รุ่นใหม่ล่าสุดปี 2020 ออกมา ซึ่งได้มีการปรับเทคโนโลยีกันใหม่โดยใช้เป็น NFC การ์ด
อะไรคือ NFC Near Field Communication : อย่างสั้น ๆ คือ เป็นวิธีการสื่อสารข้อมูลในกลุ่มการ์ดแบบไม่ต้องสัมผัส แต่ใช้การยิงคลื่นวิทยุเข้าไปอ่านข้อมูลแทน หรือ Radio-Frequency Identification (RFID) ที่เราใช้กันมานานแล้ว อย่างพวกการ์ดแตะลิฟท์คอนโด ประตูDigital บัตรรถไฟฟ้า บัตรพนักงาน หรือป้ายสินค้าในร้านค้า แต่ NFC จะเพิ่มความสามารถด้านความปลอดภัยและบรรจุข้อมูลได้หลากหลายมากกว่า
อย่างไรก็ตาม NFC ก็ยังอยู่ในกลุ่ม RFID แต่ใช้เครื่องอ่านคนละแบบ ข้อบังคับสำคัญของ NFC คือ มันถูกออกแบบให้มีระยะทำงานที่ใกล้มาก คือประมาณไม่เกิน 10 ซม. เท่านั้น ซึ่งเป็นข้อดีหากคุณใช้ NFC กับอุปกรณ์จ่ายเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์ รวมไปถึงข้อมูลส่วนตัว เพราะคุณคงไม่อยากเปิดทางให้พวกแฮคเกอร์มาแสกน หรือ สกิมข้อมูลคุณได้จากระยะ 10 เมตรใช่ไหมคะ
ทำไม Rolex ถึงเลือกใช้ NFC แทนที่บัตรแถบแม่เหล็กแบบเดิม
ราคาถูกกว่า เหตุผลสุดเบสิคที่ลัดดาคิดว่าเป็นไปได้ คือ NFC ราคาถูกกว่าแถบแม่เหล็กซึ่งในปัจจุบันไม่ค่อยมีใครอยากผลิตแล้ว บวกกับประสิทธิภาพที่สูงกว่าใช้งานง่ายกว่าหลาย ๆ สินค้าจึงหันมาใช้ NFC กันค่ะ
ปลอมแปลงได้ยากกว่า สินค้าบางยี่ห้ออาจจะใช้ NFC ชิปฝังติดไปในสินค้าเลยเพื่อให้ลูกค้าค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ ว่าสินค้าที่เห็นตรงหน้าคืออะไร ขายที่ไหน มีอะไรใหม่ โดยการแสกนตรงจากสมาร์ทโฟนเลย คล้าย ๆ กับ QR Code แต่มองไม่เห็นจึงปลอมได้ยากกว่า และนั้นคือสิ่งที่ Rolex ต้องการด้วย
อัพเดทข่าวสารล่าสุดของ Rolex ได้ง่ายเพียงแค่ใช้สมาร์ทโฟนแตะที่การ์ด Warranty โดยจะเชื่อมไปยัง Website ของ Rolex หน้าหลักก่อนเลย แต่ยังไม่ได้ชี้ไปที่รุ่นและแบบของนาฬิการุ่นนั้นทันที (อาจจะเพราะ Rolex ยังปรับปรุงเว็บไซต์ไม่ทันกับ NFC การ์ดรุ่นใหม่นี้หรือเปล่า?) นอกจากนั้นคุณก็อาจจะเห็นกลุ่มตัวเลขแปลก ๆ ขึ้นมาใน Apps ที่อ่านละเอียด ตัวเลขแปลก ๆ ที่เราก็ไม่เข้าใจ ก็ถือว่าเป็นข้อมูลภายในของเขาก็แล้วกันค่ะ
สะดวกต่อการลงทะเบียนสำหรับร้านค้าและก้าวสู่เทคโนโลยีแห่งอนาคต ถ้าใครเคยไปเยี่ยมบูติก Rolex เล็ก ๆ เมื่อสัก 6-7 ปีที่แล้วในต่างประเทศที่เจ้าของมาคุยกับลูกค้าเอง เวลามีการซื้อขายแล้วต้องลงทะเบียนสินค้าว่าขายไปแล้ว เจ้าของร้านจะเอาการ์ด Warranty ที่ใช้แถบแม่เหล็กไปรูดเครื่องรูดบัตรเครดิตนี่แหละค่ะ แล้วกดโค้ดอะไรสองสามอย่างเพื่อลงทะเบียน ซึ่งก็สะดวกสำหรับร้านค้าในการลงทะเบียนแบบ Online โดยไม่ต้องใช้คอมฯเลย แต่ต่อไปบัตรเดรดิตทั้งหมดจะถูกแทนที่ด้วยเทคโนโลยี Chip Card และ NFC แถมประเทศไทยได้ประกาศยกเลิกบัตรแถบแม่เหล็กทั้งหมดไปเมื่อต้นปีนี้ ไม่เว้นแม้แต่บัตร ATM เครื่องอ่านแถบแม่เหล็กก็จะหายไปจากตลาด เราเลยคาดเดาว่า Rolex คงจะเตรียมพร้อมเปลี่ยนระบบลงทะเบียนใบรับประกันรุ่นใหม่ให้ร้านค้าไปพร้อมกันเลยรวดเดียว
รูปลักษณ์ภายนอก
นอกจากเทคโนโลยีที่ซ่อนไว้ใน NFC ชิปแล้ว รูปลักษณ์ภายนอกของวารันตีการ์ดรุ่นใหม่ปี 2020นี้ก็เปลี่ยนไปอีก Rolexได้ยังตัดข้อมูลที่คุณเคยเห็นแล้วเอาไปถอดรหัสออกมาได้ เช่น รหัสประเทศตอนนี้ก็ไม่มีแล้ว ช่องเติมชื่อลูกค้าก็ไม่มีอีกเช่นกัน ทั้งนี้ Rolex คงเห็นแล้วว่าไม่มีประโยชน์ที่จะให้ลูกค้ารับรู้ข้อมูลว่านาฬิกาแต่ละเรือนถูกส่งไปจำหน่ายที่ไหน หรือแม้แต่การใส่ หรือไม่ใส่ชื่อลูกค้า ก็ไม่ใช่สิ่งที่Rolexเห็นความจำเป็นอีกต่อไป เลยตัดช่องชื่อลูกค้าออกไปเลย
ส่วนระบบป้องกันการปลอมแปลง เนื่องจากเป็นการฝัง NFC Chip แล้วเขียนข้อมูลลงไป การปลอมแปลงจึงค่อนข้างยาก แถม Rolex ยังอุตส่าห์ซ่อนแถบโฮโลแกรม (รูป.A) ที่คุณต้องใช้ Blacklight ส่องถึงจะเห็นไว้ที่ด้านหลังของบัตรอีกด้วย เลยทำให้การทำการปลอมแปลงวารันตีการ์ด ของRolexยากขึ้นมาอีกระดับนึง
สิ่งที่คาดว่าจะเกิดขึ้น
อันนี้ไม่ได้ชี้โพรงให้กระรอก หรืออะไรนะคะ แต่ NFC Reader ในการถอดรหัสหาง่ายๆแค่โหลด Application อ่านรหัส NFC ในมือถือคุณ คุณก็จะเห็นตัวเลขมากมาย คงมีกูรูมานั่งถอดรหัสให้เราได้เห็นกันในไม่ช้าก็เร็วค่ะ
สุดท้ายเรามีภาพย้อนยุคใบรับประกันรุ่นเก่า ๆ มาให้แฟน Rolex หายคิดถึงกันค่ะ คงทำให้เห็น ความพยายามในวันเก่า ๆของ Rolex ที่จะปรับตัวตามวิวัฒนาการและเทคโนโลยีที่เปลี่ยนอย่างรวดเร็ว
เทคโนโลยีแถบแม่เหล็ก
การ์ดเวอร์ชั่น 2014 - 2020 ที่อาจจะใช้ต่อไปอีกซักระยะหนึ่ง จะซ่อนของที่มองไม่เห็นไว้ 3 อย่าง คือ 1.แถบโฮโลแกรม (รูป B.) 2.ข้อมูลในแถบแม่เหล็ก และ 3.เส้นตัวหนังสือจิ๋วสามเส้น ซึ่งต้องใช้แว่นขยายระดับ 10x ขึ้นไปถึงจะอ่านออก (รูป C.) สิ่งที่ปรากฏบนการ์ดได้แก่
- Serial
- Model
- Name of Official Rolex Retailer
- Purchaser
- Date of Purchase
การ์ดเวอร์ชั่น 2006-2014 ซ่อนสิ่งที่มองไม่เห็น คือ 1.แถบโฮโลแกรม (รูป F.) และ 2.ข้อมูลในแถบแม่เหล็ก ส่วนสิ่งที่่ปรากฏอยู่บนการ์ดจะมี
- N.Client (เลข Country Code)
- Ref. (รหัสรุ่น)
- Serial no.
- Model
- ชื่อตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ
- ชื่อผู้ซื้อ
- วันที่ซื้อ
Hidden Hologram
ตำแหน่ง Hidden Hologram ของการ์ดทั้ง 3 เวอร์ชั่น ที่ต้องส่องด้วย UV Light เท่านั้นถึงจะเห็น การ์ดเวอร์ชั่น 2006 และ 2014 จะอยู่บนการ์ดด้านหน้า ส่วนเวอร์ชั่นล่าสุด 2020 ย้ายไปด้านหลังการ์ดเหนือเลขรุ่น
ใบรับประกันเวอร์ชั่นกระดาษ Pre 2002 - 2008
มีลักษณะเป็นแผ่นพับ ตกแต่งลายกราฟฟิก Rolex ซึ่งข้อมูลที่ปรากฏบนใบรับประกันจะมีตั้งแต่
- Country Code
- Serial คือ ตัวเลขมักใช้วิธีการเจาะเจอฉลุด้วยเครื่องเฉพาะ เพิ่มความน่าเชื่อถือว่าไม่ได้พิมพ์หรือเขียนกันได้ง่าย ๆ
- Model
- ชื่อผู้ซื้อ
- ชื่อตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ
- วันที่ซื้อ
Credits :
www.watchprosite.com
www.millenarywatches.com
www.wristreview.com
www.watchesbysjx.com
www.mellor-online.co.uk
www.picclick.com
Comments